วัดดัง วัดพระแท่นศิลาอาสน์ อุตรดิตถ์ วัดประจำจังหวัด

หากมาถึงจังหวัดอุตรดิตถ์ อีกหนึ่งวัดที่พลาดไม่ได้ก็คงเป็น วัดพระแท่นศิลาอาสน์ อุตรดิตถ์ เรียกได้ว่าเป็นวัดสำคัญของชาวอุตรดิตถ์ ก็ว่าได้ เองจากเป็นวัดที่อยู่คู่จังหวัดมาอย่างยาวนาน ทั้งตราของจังหวัดเองก็เป็นลายของวัดแห่งนี้อีกด้วย จะเห็นได้ว่าไม่ควรพลาดที่จะทำความรู้จักกับวัดแห่งนี้ รวมไปถึงต้องหาโอกาสมาสักการะ และทำความรู้จักวัดสักครั้ง วันนี้ หวยสด ขอพาเพื่อนๆมารู้จักกับประวัติความเป็นมาดังต่อไปนี้

ประวัติยาวนานของ วัดพระแท่นศิลาอาสน์ อุตรดิตถ์

เดิมวัดแห่งนี้มีชื่อว่า วัดมหาธาตุ ที่ตั้งคือ เนินเขาเต่า บ้านพระแท่น ในตำบลทุ่งยั้ง อยู่ติดกับพระยืนพุทธบาน ที่จริงแล้วตั้งอยู่บนภูเขาลูกเดียวกัน เพียงแต่ว่าคนละยอดเขาเท่านั้น ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีอายุเก่าแก่ รวมไปถึงไม่ปรากฎหลักฐานว่าผู้ใดเป็นผู้ก่อสร้างวัดแห่งนี้ และสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อใด ทางราชการมีการนำพระแท่นศิลาอาสน์ของวัดแห่งนี้ ไปประดิษฐานอยู่ในตราประจำจังหวัด เพื่อเป็นการแสดงความศรัทธา และเลื่อมใส ต่อองค์พระแท่นศิลาอาสน์

ในปัจจุบันวัดพระแท่นศิลาอาสน์ ถูกยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ในสังกัดธรรมยุตินิกาย ในปี พ.ศ. 2549 พระแท่นศิลาอาสน์เป็นพุทธเจดีย์ ถือเป็นความเชื่อตั้งแต่สมัยโบราณวาสสมเด็จพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ได้เสด็จมาประทับั่งบนพระแท่นแห่งนี้ เพื่อเจริญภาวนาเพิ่มบูญบารมี  และยังได้ประทับเพื่อตรัสรู้ เพื่อโปรดสัตว์ ถือได้ว่าพระแท่นศิลาอาสน์แห่งนี้ มีประวัติความเป็นมายาวนานในพระพุทธศาสนา

ลักษณะของตัวพระแท่น ทำมาจากศิลาแลงเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง 8 ฟุต ยาว 10 ฟุต สูง 3 ฟุต ฐานของพระแท่นถูกประดับด้วยลายกลีบดอกบัว มีมณฑปศิลปะในสมัยเชียงแสน ครอบอยู่ภายในพระวิหาร มีเรื่องเล่าว่ากันว่านายช่างที่ทำการสร้างวิหารวัดพระแท่นศิลาอาสน์ วัดฝาง และวัดสุทัศน์ เป็นนายช่างเดียวกัน ประตูบานเก่าทำมาจากไม้แกะสลัก จากช่างฝีมือดี แกะออกมาเด่นเป็นลายซ้อนทับกันหลายชั้น เป็นลายขดปลายเป็นรูปต่าง ๆ ลายเดียวกับบานมุขที่วิหารพรุพุทธชินราช เชื่อว่าถูกสร้างตั้งแต่ในสมัยพระเจ้าติโลกราชกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรล้านนา ซึ่งตอนนั้นเคียงคู่อยู่กับสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถกษัตริย์กรุงศรีอยุธยา

ในเวลาต่อมาพระเจ้าบรมโกศมีศรัทธษทำให้ทำประตูมุขลายเดิมถวายแทน แล้วให้นำบานเดิมที่มีอยู่ไปใช้เป็นบานวิหารวัดพระแท่นศิลาอสน์ นื่องจากประตูวิหารบานเก่าถูกไฟไหม้เมื่อ 25 มีนาคม พ.ศ. 2451 เนื่องมาจากไฟป่าลามทุ่ล แล้วลามเข้ามาถึงวัด จากเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนั้นทำให้เหลือกุฏิ ที่ใช้ประดาฐานหลวงพ่อธรรมจักรเพียงหลังเดียว ต่อมาเจ้าเมืองอุตรดิตถ์นครในสมัยนั้น พระยาวโรดมภักดีอุตรดิตถ์นคร ได้ทำกการเรี่ยไรเงิรจากชาวบ้าน มาเพื่อทำการซ่อมแซมวิหาร

ภายในวัดแห่งนี้มีพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ก่อตั้งโดย พระเฉลิมศิลป์ ชยเปาโล ด้านหน้าขอพิพิธภณฑ์มีดอกไม้ประดับสวนสมุนไพร และรถกระบะดัดแปลงเป็นรถพิพิธภัณฑ์ ด้านในของอาคารตกแต่งแบบล้านนา ชั้นล่างมีการแสดงภาพเขียนในอดีตของวัดพระแท่นศิลาอาสน์ มีการจำหน่ายสินค้าจากชุมชน มีการแสดงพระพุทธรูปเก่าแก่ ที่แกะสลักจากไม้ แสดงภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้าน เครื่องมือที่จับสัตว์น้ำ เครื่องครัวต่าง ๆ หม้อ ไห จาน ชาม อุปกรณ์การละเล่น

รายละเอียดวัดพระแท่นศิลาอาสน์ อุตรดิตถ์

• ตั้งอยู่ที่ ตำบล ทุ่งยั้ง อำเภอ ลับแล จังหวัด อุตรดิตถ์
• เวลาที่เปิดให้เข้าชม : 8.00 -17.00 น.
•  ลำดับ : พระอารามหลวงชั้นตรี

ที่วัดแห่งนี้ยังมีการจัดงานประจำปี ได้แก่งานนมัสการ พระแท่นศิลาอาสน์ เริ่มใน วันขึ้น 8 ค่ำไปจนถึง 15 ค่ำ ในเดือนสาม

ในช่วง พ.ศ. 2483 จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ให้มีการออกแบบตราประจำจังหวัด ใช้เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัด และทำให้เห็นถึงสถานที่สำคัญของแต่ละจังหวัด ให้คนต่างถิ่นได้ทำความรู้จัก จังหวัดอุตรดิตถ์จึงเสนอให้นำรูปมณฑปพระแท่นศิลาอาสน์ มาใช้เป็นตราประจำจังหวัด ถูกออกแบบโดยพระพรหมพิจิตร เป็นรูปมณฑปของพระแท่นศิลาอาสน์ มีช่อกนกขนาบข้างในวงกลม ต่อมามีการเพิ่มรูปครุฑ และอักษรบอกชื่อจังหวัดอุตรดิตถ์ ไว้ใต้ภาพพระแท่นด้วย

หลังจากได้ทำความรู้จักกับ วัดพระแท่นศิลาอาสน์ อุตรดิตถ์ ไปแล้วนั้น ก็บอกได้เลยว่าเป็นอีกวัดเก่าแก่ที่ควรค่าแก่การมาเที่ยว มาสัมผัสบรรยากาศความสวยงาม การก่อสร้างแบบก่อน ที่ยังคงความเก่าแก่เอาไว้ การตกแต่งสมัยล้านนาน ที่รอให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสอยู่ เป็นวันที่น่าสนใจใช่ไหมล่ะคะ วันนี้ หวยสด ลาไปก่อน สวัสดีค่ะ